ระบบ Balanced Scorecard (BSC) ถูกพัฒนาขึ้นในปี ค.ศ. 1992 โดยมีเจตนาครั้งแรกใช้เป็นระบบประเมินผล โดยศาสตราจารย์ Robert Kaplan จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาด และ Dr. David Norton จากบริษัทที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการธุรกิจ วัตถประสงค์ครั้งแรกของระบบ BSC ใช้เป็นระบบประเมินผล ต่อมาใช้เป็นเครื่องมือบริหารองค์กรเชิงกลยุทธ์ โดยยึดหลัก 5 ประการ คือ
1. ขับเคลื่อนกลยุทธ์โดยความเป็นผู้นำของผู้บริหาร (Mobilize)
2. แปลงกลยุทธ์เป็นข้อความที่เข้าใจง่ายในการปฏิบัติ (Translate)
3. ปรับองค์กรให้ดำนินการตามกลยุทธ์ (Align)
4. จูงใจให้กลยุทธ์เป็นงานของทุกคน (Motivate)
5. กำกับดูแลให้กลยุทธ์เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง (Govern)
ระบบ BSC ถือว่าผลประกอบการด้านการเงินเป็นส่วนเดียวที่แสดงผลการดำเนินงานของบริษัท ระบบ BSC สร้างความสมดุลระหว่างตัวชี้วัดด้านการเงินกับตัวชี้วัดที่ไม่ใช่การเงินอีก 3 มิติคือ ลูกค้า กระบวนการภายใน และการเรียนรู้และพัฒนาของพนักงาน
การแปลงแผนยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ ใช้เครืองมือที่สำคัญ 2 ตัวคือ
1. Strategy map หมายถึง เอกสารหน้าเดียวที่แสดงถึง แผนที่ยุทธศาสตร์แสดงภาพความสัมพันธ์ของวัตถุประสงค์ 4 มิติ (หรือ ด้าน) ของระบบประเมินผลแบบสมดุล (Balanced Scorecard) (การเงิน ลูกค้า กระบวนการทำงาน การเรียนรู้และพัฒนา) แผนที่ยุทธศาสตร์ แสดงถึงวัตถุประสงค์ของแต่ละมิติ และ แสดงถึงการผลกระทบระหว่างวัตถุประสงค์ของอีกมิติ หลายองค์กรใช้ แผนที่ยุทธ์ศาสตร์ในการแปลงกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ โดยจัดทำ แผนที่ยุทธศาสตร์ระดับองค์กร และแผนที่ยุทศาสตร์ระดับล่าง เช่น ระดับสายงาน ระดับฝ่าย โดยที่แผนที่ยุทธศาสตร์ระดับล่างประกอบด้วยวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของ 4 มิติ ที่สนับสนุนวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของ 4 มิติ ของแผนที่ยุทธศาสตร์ระดับองค์กร
2. Balanced Scorecard ประกอบด้วย ตัวชี้วัด เป้าหมาย ของ 4 มิติ บริษัทมี Balanced Scorecard ระดับองค์กรที่เชื่อมโยงกับ Balanced Scorecard ของระดับล่างเช่น ระดับสายงาน และฝ่าย
เครื่องมือ Strategy map และ Balanced Scorecard เป็นตัวปรับให้ทำให้พนักงานในองค์กรทำงานเป็นทิศทางเดียวกับยุทธศาสตร์
ระบบ BSC นอกจากใช้บริหารบริษัทที่มุ่งแสวงหากำไรแล้ว ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ระบบ BSC ยังมักถูกนำไปใช้ทั่วโลกในการนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ และการประเมินผลองค์กร
ที่มา: Kaplan and Norton, The Excution Premium , 2008
1. ขับเคลื่อนกลยุทธ์โดยความเป็นผู้นำของผู้บริหาร (Mobilize)
2. แปลงกลยุทธ์เป็นข้อความที่เข้าใจง่ายในการปฏิบัติ (Translate)
3. ปรับองค์กรให้ดำนินการตามกลยุทธ์ (Align)
4. จูงใจให้กลยุทธ์เป็นงานของทุกคน (Motivate)
5. กำกับดูแลให้กลยุทธ์เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง (Govern)
ระบบ BSC ถือว่าผลประกอบการด้านการเงินเป็นส่วนเดียวที่แสดงผลการดำเนินงานของบริษัท ระบบ BSC สร้างความสมดุลระหว่างตัวชี้วัดด้านการเงินกับตัวชี้วัดที่ไม่ใช่การเงินอีก 3 มิติคือ ลูกค้า กระบวนการภายใน และการเรียนรู้และพัฒนาของพนักงาน
การแปลงแผนยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติ ใช้เครืองมือที่สำคัญ 2 ตัวคือ
1. Strategy map หมายถึง เอกสารหน้าเดียวที่แสดงถึง แผนที่ยุทธศาสตร์แสดงภาพความสัมพันธ์ของวัตถุประสงค์ 4 มิติ (หรือ ด้าน) ของระบบประเมินผลแบบสมดุล (Balanced Scorecard) (การเงิน ลูกค้า กระบวนการทำงาน การเรียนรู้และพัฒนา) แผนที่ยุทธศาสตร์ แสดงถึงวัตถุประสงค์ของแต่ละมิติ และ แสดงถึงการผลกระทบระหว่างวัตถุประสงค์ของอีกมิติ หลายองค์กรใช้ แผนที่ยุทธ์ศาสตร์ในการแปลงกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ โดยจัดทำ แผนที่ยุทธศาสตร์ระดับองค์กร และแผนที่ยุทศาสตร์ระดับล่าง เช่น ระดับสายงาน ระดับฝ่าย โดยที่แผนที่ยุทธศาสตร์ระดับล่างประกอบด้วยวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของ 4 มิติ ที่สนับสนุนวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของ 4 มิติ ของแผนที่ยุทธศาสตร์ระดับองค์กร
2. Balanced Scorecard ประกอบด้วย ตัวชี้วัด เป้าหมาย ของ 4 มิติ บริษัทมี Balanced Scorecard ระดับองค์กรที่เชื่อมโยงกับ Balanced Scorecard ของระดับล่างเช่น ระดับสายงาน และฝ่าย
เครื่องมือ Strategy map และ Balanced Scorecard เป็นตัวปรับให้ทำให้พนักงานในองค์กรทำงานเป็นทิศทางเดียวกับยุทธศาสตร์
ระบบ BSC นอกจากใช้บริหารบริษัทที่มุ่งแสวงหากำไรแล้ว ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ระบบ BSC ยังมักถูกนำไปใช้ทั่วโลกในการนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ และการประเมินผลองค์กร
ที่มา: Kaplan and Norton, The Excution Premium , 2008
ความคิดเห็น